

ปัจจัยหลายอย่างในปัจจุบัน เช่น พฤติกรรมการใช้ชีวิต สิ่งแวดล้อมและอาหาร ส่งผลให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ง่ายขึ้น อีกทั้งแนวโน้มค่ารักษาพยาบาลก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ หากเราไม่มีการวางแผนประกันสุขภาพไว้ เมื่อเกิดการเจ็บป่วยขึ้นมา อาจทำให้เราต้องสูญเสียเงินไปกับค่ารักษาพยาบาลได้ ดังนั้น การเตรียมความพร้อมด้วยประกันสุขภาพจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
ทำไมต้องมีประกันสุขภาพตอนที่ร่างกายยังแข็งแรง
– หากทำหลังเป็นโรคหรือเจ็บป่วย ประกันไม่คุ้มครอง โรคที่เป็นมาก่อนที่จะทำประกันสุขภาพ ซึ่งยังรักษาไม่หายดีหรืออยู่ระหว่างการรักษา ไม่สามารถเคลมหลังทำประกันภัยได้ นอกจากนี้ โรคที่มีผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว บริษัทประกันภัยอาจไม่รับทำประกันสุขภาพหรือไม่ให้ความคุ้มครองเช่นกัน ตัวอย่างเช่น โรคหัวใจ โรคเกี่ยวกับสมองและระบบประสาท
– เบี้ยประกันสุขภาพเพิ่มตามอายุ ประกันสุขภาพโดยทั่วไป เบี้ยประกันจะเพิ่มตามอายุ เนื่องจากเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายและสุขภาพโดยรวมย่อมมีความเสื่อมถอยเป็นธรรมดา โอกาสที่จะเจ็บไข้ได้ป่วยย่อมมีสูงขึ้นกว่าตอนที่อยู่ในวัยหนุ่มสาว ทำให้บริษัทประกันต้องเพิ่มเบี้ยประกันตามอายุ
– ประกันสุขภาพไม่คุ้มครองทันที มีระยะเวลารอคอย หากเจ็บป่วยก่อนทำประกัน อาจยังไม่ได้รับความคุ้มครองในทันที ซึ่งจะเริ่มมีผลหลังจากเลยช่วงที่เรียกว่า “ระยะเวลารอคอย” ไปแล้ว โดยระยะเวลารอคอยจะอยู่ที่ระหว่าง 30 – 120 วัน แล้วแต่เงื่อนไขที่ระบุในกรมธรรม์
– ลดความเสี่ยงทางการเงิน เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าในอนาคตจะเกิดเจ็บป่วยแบบไม่ทันตั้งตัวเมื่อไร หรือหากเกิดโรคร้ายแรงขึ้นอาจแบกรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรักษาไม่ไหว ถึงขั้นเงินเก็บหาย ซึ่งการโอนความเสี่ยงไปยังหลักประกันจะช่วยให้เราวางใจและใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่มากขึ้น
โรคที่ประกันไม่คุ้มครอง มีอะไรบ้าง?
โรคที่ประกันไม่คุ้มครอง คือ โรคหรือภาวะทางสุขภาพที่ผู้ให้บริการประกันจะไม่ให้ความคุ้มครอง ซึ่งอาจเป็นโรคที่อยู่นอกเหนือจากแผนประกัน หรือเป็นโรคที่อยู่ในเงื่อนไขว่าจะไม่ได้รับการคุ้มครอง ทั้งนี้รายละเอียดอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับแผนประกัน และเงื่อนไขที่ผู้ให้บริการประกันกำหนดไว้ ดังนี้
– โรคที่เกิดจากพฤติกรรมเสี่ยง สำหรับผู้ที่มีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อสุขภาพหรือใช้สารเสพติด อย่างการดื่มสุราหรือสูบบุหรี่เป็นประจำ บริษัทประกันภัยอาจปฏิเสธการทำประกันสุขภาพ หรือให้จ่ายเบี้ยประกันภัยสูงขึ้น
– โรคที่เป็นมาก่อนแต่ปกปิดข้อมูล หากผู้เอาประกันภัยเป็นโรคเรื้อรังที่ต้องรักษาต่อเนื่อง อย่างโรคมะเร็ง หรือไตวายเรื้อรัง แล้วจงใจปกปิดข้อมูล บริษัทประกันภัยอาจจะปฏิเสธความคุ้มครอง
– โรคทางจิตเวช โรคทางจิตเวชเป็นโรคที่มีความซับซ้อนในการรักษาและมีระยะเวลารักษาที่ยาวนาน จึงเป็นข้อยกเว้นของบริษัทประกันในการจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่เกิดจากโรคจิตเวช
– โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นโรค HIV/AIDS หรือซิฟิลิส จะไม่อยู่ในความคุ้มครองของประกันสุขภาพ ไม่สามารถขอเคลมได้ เนื่องจากเป็นโรคที่เกิดจากพฤติกรรม
ช่วงเวลาที่ทำประกันสุขภาพที่ดีที่สุด คือ ช่วงที่ยังมีสุขภาพดีและไม่เจ็บป่วย เพื่อให้ได้ความคุ้มครองสูงสุด ในทางกลับกัน หากทำประกันล่าช้าหรือเกิดโรคขึ้นก่อนทำประกัน โอกาสในการทำประกันและได้รับความคุ้มครองก็จะยิ่งน้อยลง หรืออาจไม่สามารถทำประกันได้เลย ดังนั้น เคลียร์ชัด ๆ เอไอเอ อยากแนะนำให้ซื้อประกันไว้ก่อนเจ็บป่วย
โปรเด็ด “เปย์มา เปย์กลับ” ซื้อประกันเอไอเอ รับสิทธิพิเศษเพียบ!
เพียงลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ และซื้อแบบประกันที่ร่วมรายการ ตามเงื่อนไขของโครงการฯ โดยจ่ายเบี้ยประกันภัยแบบรายปี ภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 – 30 กันยายน 2568
รับบัตร Lotus’s e-voucher มูลค่าสูงสุด 3,500 บาท
– เมื่อซื้อแบบประกันที่ร่วมรายการ และมีเบี้ยฯ รวมขั้นต่ำ 35,000 บาท รับบัตร Lotus’s e-voucher มูลค่า 1,000 บาท*
– เมื่อซื้อแบบประกันที่ร่วมรายการ และมีเบี้ยฯ รวมขั้นต่ำ 100,000 บาท รับบัตร Lotus’s e-voucher มูลค่า 3,500 บาท*
– รับสิทธิ์ยกเว้นเบี้ยฯ ปีสุดท้าย เมื่อซื้อแบบประกันที่กำหนด และสิทธิประโยชน์อีกมากมาย
สนใจทำประกัน เอไอเอ กดติดต่อกลับเพื่อกรอกแบบฟอร์ม ให้ตัวแทนแนะนำแบบประกันที่เหมาะกับคุณ
หมายเหตุ
– เงื่อนไขโปรโมชันเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง ยกเลิก แก้ไขรายละเอียดหรือเงื่อนไขต่าง ๆ โดยแจ้งให้ทราบล่วงหน้าผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท
– ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครอง รวมทั้งข้อยกเว้นไม่คุ้มครองของผลิตภัณฑ์ประกันภัย และเงื่อนไขที่เอไอเอประกาศ ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
– ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์
รวบรวมข้อมูลโดย เอไอเอ ประเทศไทย